Arambros on tour ดินแดนมังกรสายฟ้า ภูฏาน Part I
ภูฏาน ประเทศเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า ดรุกยุล (Druk Yul) หรือดินแดนมังกรสายฟ้า ประเทศแห่งนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลและถูกขนาบโดยประเทศอินเดียและจีน การเดินทางมาจากเมืองไทยก็ต้องบินลงสนามบินพาโรที่เป็นสนามบินนานาชาติแห่งเดียวของภูฏานและยังจัดว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่เครื่องบินลงจอดยากที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากสนามบินรายล้อมโดยเทือกเขาสูงมากมาย เรียกว่านั่งไปลุ้นไปกันเลยทีเดียวครับ
การเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศภูฏานจะต้องดำเนินการผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น และค่าใช้จ่ายอาจจะดูสูง อันเนื่องมาจากทางรัฐบาลได้มีการกำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของนักท่องเที่ยวแต่ละคน และค่าตั๋วเครื่องบินก็ราคาค่อนข้างสูง แต่อาจจะมีบางช่วงที่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษในการเดินทางไปเที่ยว ครั้งนี้ทาง แอดมิน ก็ได้เดินทางไปกับบริษัททัวร์แต่ต้องขอบอกเลยครับว่า เป็นประสบการณ์ที่แย่มากสำหรับการใช้บริการบริษัททัวร์แห่งนี้ที่บอกว่าตัวเองเป็นพรีเมี่ยมทัวร์ แต่ความเป็นจริงไม่ใช่เลยครับ แต่ก็ยังดีที่ได้รับบริการที่ดีจากไกด์ท้องถิ่น และความเป็นมิตรของชาวภูฏานซึ่งทำให้ประทับใจกับประเทศนี้
ผมเริ่มการเที่ยวในภูฏานกันที่ พาโรซอง (Paro Dzong) หรืออีกชื่อหนึ่ง รินปุงซอง (Rinpung Dzong) ถ้ามาเที่ยวภูฏานโปรแกรมที่เราจะเจอก็คือการเที่ยว ซอง (Dzong) ในแต่ละเมืองก็อาจจะทำให้งงงวยกัน ซอง ในอดีตก็เปรียบเสมือนป้อมปราการ และศูนย์บัญชาการสำหรับเมืองต่างๆในสมัยก่อนที่จะมีประเทศภูฏาน ในปัจจุบันก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นวัง เป็นวัด หรือศูนย์บริหารราชการแผ่นดิน
พาโรซองสร้างขึ้นในปี คศ 1645 โดยท่านซับดรุง นาวาง นัมเกล ปัจจุบันก็เป็นศูนย์บริหารราชการ และวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ ในวันที่ผมไปเที่ยวสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก (รัชการที่ 4) ได้เสด็จมาประกอบพิธี เลยได้ทำให้ได้มีโอกาสได้รับเสด็จไปด้วยครับ
จากพาโรซอง เรามุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหลวงทิมพู Thimphu ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เรารับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ และไม่ต้องกังวลในเรื่องอาหารเนื่องด้วยทางภูฏานต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยบ่อยเลยทำให้สามารถทำอาหารไทยให้เรารับประทานได้ครับ รสชาติก็โอเคครับ
บรรยากาศภายในเมือง Thimpu มีการประดับรูปพระมหากษัตริย์ตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ และที่นี่เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่ไม่มีไฟจราจร จะใช้บริการตำรวจจราจรให้สัญญาณโบกรถอยู่ที่แยกสำคัญในเมือง
โปรแกรมภาคบ่ายเราจะเที่ยวชมในเมืองทิมพู โดยเริ่มต้นกันที่ ไปรษณีย์ประจำเมืองภูฏาน ซึ่งที่นี่ไฮไลท์สำคัญคือการมาถ่ายรูปเพื่อทำแสตมป์ภูฏานกัน และภายในยังมีแสตมป์และสินค้าให้ซื้อหามาเป็นของที่ระลึกกันครับ
จากไปรษณีย์เราไปต่อกันที่ Memorial Chorten ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จี วังชุกซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่สาม ภายในเจดีย์ เราจะพบพุทธศาสนิกชนขาวภูฏานมากมายมาสวดมนต์และตั้งจิตอธิษฐานกัน
จุดหมายสุดท้ายในเมือง Thimphu เราจะไปกันที่สวนสัตว์ เพื่อไปชมสัตว์ประจำชาติของภูฏาน คือตัวทาคิน Takin จะมีหน้าตาลักษณะคล้ายแพะแต่ไม่มีเครา ตัวจะใหญ่กว่าแพะมากครับ
จบวันแรกกับทริปภูฎาน พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวเมืองพูนาคา ที่มีซองที่สวยงามริมแม่น้ำกัน จะเป็นอย่างไรติดตามกันได้ที่ Arambros ครับ