Arambros on Tour : Hakodate ฮาโกดาเตะ
ไม่ได้เขียนรีวิวท่องเที่ยวมานานเป็นแรมปี ปีใหม่ 2017 นี้ก็ขอเริ่มต้นพาเพื่อนๆไปเที่ยวท่องกันตามประสา Arambros โดยจุดหมายในวันนี้ เป็นเมืองฮาโกดาเตะ หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น แถมเมืองนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยเรื่อง “แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว” พร้อมแล้วก็ออกไปเที่ยวกันเลยครับ
การเดินทางมายังเมือง ฮาโกดาเตะ เพื่อนๆสามารถบินมาลงที่สนามบินฮาโกดาเตะ ซึ่งมีทั้งไฟลท์บินในประเทศและต่างประเทศ แต่จากเมืองไทยยังไม่มีบินตรงครับ หรือใครชื่นชอบรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนปัจจุบันก็สามารถเดินทางตรงจากโตเกียวได้แล้วครับ (เปิดบริการเมื่อ 26/3/2016)
Credit photo : http://www.sapporostation.com
ส่วนการเดินทางภายใน ฮาโกดาเตะก็มีรถรางคอยให้บริการไปตามจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ หรือถ้ามากันหลายคนก็สามารถใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวมีระยะทางที่ไม่ไกลเท่าไหร่ และจะมีความสะดวกสบายกว่าการใช้รถราง ซึ่งการเดินทางมาเที่ยวของผมในครั้งนี้ก็เลือกใช้บริการแท็กซี่เป็นส่วนใหญ่ครับ
เกริ่นนำมาหลายเรื่อง มาเริ่มต้นเที่ยวฮาโกดาเตะ กันเลยดีกว่า มุดหมายแรกที่ผมไปก็เป็น ย่านโกดังเก่าริมน้ำ Kanemori Red Brick Warehouse ที่ปัจจุบันได้ดัดแปลงมาเป็น ร้านอาหารหรือย่านเดินเล่นช็อปปิ้งของเมืองฮาโกดาเตะ (บรรยากาศก็คล้ายคลึง Asiatique บ้านเราครับ) จากนั้นก็เดินต่อไปยังกลุ่มโบสถ์ต่างๆ ในย่านโมโตมาจิ Motomachi เช่นโบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์ โบสถ์อิปิสโคปัล ก่อนที่จะมาปิดท้ายวันแรกกับการเก็บภาพ Low Light ที่ เนินฮาจิมันซากะ ที่จะมีการประดับไฟตามต้นไม้อย่างสวยงาม
วันที่สองผมเริ่มต้นการชมเมือง ที่ตลาดเช้าเมืองฮาโกดาเตะ หรือ ฮาโกดาเตะ อาสะอิจิ (Hakodate Asaichi) ภายในจะมีการขายอาหารทะเลสดๆ ผลไม้ และขนมของฝากต่างๆมากมาย ไฮไลท์ก็คงจะเป็นการให้เราตกหมึกสดๆก่อนที่พ่อค้าจะนำมาแล่ให้เราได้กินสดๆ ผมไม่ได้ลองชิมเพราะเห็นแล้วดูจะโหดร้ายไปหน่อยครับ อีกหนึ่งเมนูที่ควรพลาดชิมกันก็คือ ข้าวหน้าอาหารทะเล ซึ่งมีท็อปปิ้งให้เลือกมากมายไม่ว่า หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน ปูทะเล เนื้อแซลมอน ฯลฯ
อิ่มอร่อยเรียบร้อยก็เรียกแท็กซี่ไปยัง ป้อมปราการโกเรียวคาคุ (Goryokaku) ที่เป็นป้อมปราการสไตล์ตะวันตกและสร้างเสร็จเมื่อเกือบ 150 ปีที่แล้ว ก่อนเข้าไปเดินบริเวณป้อมก็แวะขึ้น หอคอยโกเรียวคาคุ เพื่อชมวิวมุมสูงของป้อมที่เป็นรูปดาวห้าแฉก และวิวเมืองฮาโกดาเตะที่สวยงาม ชมวิวมุมสูงเรียบร้อยก็ลงมาเดินเล่นภายในป้อมปราการ ซึ่งภายในจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ แต่ถ้าเป็นในช่วงซากุระบานคงมีความสวยงามไปอีกแบบอย่างแน่นอน
จากป้อมปราการโกเรียวคาคุ ผมเดินทางต่อมาที่ สวนสาธารณะโมโตมาชิ ซึ่งบริเวณนี้จุดไฮไลท์ก็เป็น ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ ที่มีสีฟ้าตัดกับสีเหลือง และเป็นฉากหนึ่งที่เราได้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง แฟนเดย์ นั่นเองครับ
ปิดท้ายทริปฮาโกดาเตะ โดยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้น Mount Hakodate เพื่อไปชมวิวยามค่ำคืนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดหนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่น แถมยังสวยงามติดอันดับโลกอีกด้วยครับ เป็นลักษณะอ่าวทั้งสองฝั่งโอบล้อมเมืองฮาโกดาเตะ และมีท่าเรือที่สวยงาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมก็เป็นช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกดินจนหลังจากพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปซัก 10-20 นาที แต่ในหน้าหนาวนี้ต้องเตรียมชุดกันความหนาวมาอย่างดี เพราะลมด้านบนจะแรงมาก และอีกอย่างถ้าต้องการที่จะเก็บภาพควรที่จะขึ้นไปจองที่แต่เนิ่นๆ เพราะเมื่อเวลา Peak Time มาถึงเรียกว่าชุมชนแออัดได้เลยครับ
ฮาโกดาเตะนั้นยังมีสถานที่เที่ยวอื่นที่ผมพลาดไม่ได้ไปเยือนในครั้งนี้ เช่น Yunokawa Onsen ที่เราสามารถไปชมลิงแช่ Onsen ได้เหมือน Nagano กับเวลา 2 วันที่ผมได้เที่ยวใน ฮาโกดาเตะ นั้นรู้สึกประทับใจกับบรรยากาศในเมืองที่มีการผสานกันของ อาคารประวัติศาสตร์ทั้งแนวตะวันออกและตะวันตก วิวทิวทัศน์ที่สวยงามรวมทั้งอาหารทะเลที่สดและอร่อย
Credit Photo : http://www.hakodate.travel