Arambros ทริปขับรถล่องภาคใต้ 3,000 กม. (วันที่7)
การเดินทางล่องใต้วันที่ 7 ตรงกับวันปีใหม่พอดิบพอดี ช่วงนี้อยู่ในเส้นทางขับกลับ กทม จะว่าไป 8 วันสำหรับการขับรถล่องใต้นั้นดูเหมือนนานแต่เอาเข้าจริงผมว่ามันยังน้อยไปครับเพราะยังมีอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมไม่สามารถมีโอกาสแวะไปเยี่ยมชมในทริปนี้
รวมๆแล้วก็เดินทางมาเกือบ 2,000 กิโลเมตรแล้ว ได้สัมผัสหลากหลายบรรยากาศกับการขับรถล่องใต้ไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา วัดวาอาราม (เอ๊ะดูเหมือนจะขาดน้ำตก) เริ่มวันด้วยการไปกราบไหว้พระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่3 ของชาวใต้ (จากข้อมูลในเว็ปที่ค้นหานั้นบอกว่าโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของภาคใต้มีสามแห่งด้วยกัน คือ วัดหน้าถ้ำจังหวัดยะลา พระมหาธาตุมหาวรวิหาร จังหวัด นครศรีธรรมราช และพระธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี)
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี สร้างขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่12 หรือ 13 ในยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัย
จากนั้นก็เข้าไปดูเจดีย์พระบรมธาตุซึ่งเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเจดีย์องค์เดียว ที่ถือว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน โดยมีความสูงจากฐานใต้ดินถึงยอด 24 เมตร เจดีย์พระบรมธาตุยังเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัด
ภายนอกวัดนั้นมีต้นไม้ขนาดใหญ่ยืนต้นคู่ ดูร่มรื่นมากครับ
กราบไหว้พระบรมธาตุไชยาก็ขับมุ่งตรงไปจังหวัดชุมพรที่เราได้แวะไปเที่ยวกันมาแล้วในวันที่ 1 และ 2 ขากลับก็แวะเข้าไปชมฟาร์มชะมดที่ผลิตกาแฟขี้ชะมดที่ถือว่ามีรสชาติที่ดีที่สุด
บรรยากาศร้านที่แวะชิมและชมขั้นตอนการผลิตกาแฟขี้ชะมดนั้น ยังเป็นลักษณะการทำแบบครัวเรือนอยู่ครับ แต่ลูกหลานของทางร้านนั้นให้ข้อมูลได้ดีมากเลย เริ่มจากจุดที่เขาเลี้ยงตัวชะมดไว้ในถังให้มันขดเหมือนอยู่ในถ้ำ ทางร้านเตือนว่าไม่ควรยื่นมือเข้าไปในกรงเพราะตัวชะมดอาจจะกัดเราได้
อันนี้เป็นผลเมล็ดกาแฟสดที่เตรียมไว้ให้ชะมดกิน ซึ่งชะมดจะกินไปทั้งหมด และเหลือในส่วนเมล็ดกาแฟที่รอระบบการย่อยออกมา
และชะมดก็จะถ่ายออกมาเป็นลักษณะแบบที่เห็นในรูปครับ ทางร้านบอกแจ้งว่าจะนำขี้ของเจ้าชะมดมาตากแดดให้แห้งแล้วก็ไปบ่มโดยเก็บไว้ในลังปิดมิดชิดประมาณ 9 เดือน
จากนั้นจึงนำมาล้างตากแดดเป็นเม็ดๆ
แล้วกระเทาะเปลือกออก
ก็จะได้เม็ดกาแฟตามรูปเพื่อนำไปคั่วต่อเป็นเม็ดกาแฟพร้อมบดและเสริฟ
แก้วซ้ายเป็น Espresso กาแฟขี้ชะมดส่วนหัว (น้ำแรก) ส่วนแก้วขวานั้นเป็นน้ำสองจะจืดๆนะครับ จะทานกาแฟขี้ชะมดแนะนำว่าต้องแบบ Espresso เท่านั้นนะครับ ท่านใดผ่านไปชุมพรก็แวะไปชิมกาแฟขี้ชะมดกันได้ครับ ส่วนตัวผมชิมแล้ว ผมว่าก็หอมๆเข้มๆ แต่ลิ้นผมยังไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างได้ดีมาก ทางร้านจำหน่ายแบบเป็นเมล็ดคั่วเสร็จแล้ว ราคา 2,000 บาท 100 กรัม ซึ่งชงได้ประมาณ 14 แก้ว แล้วยังมีแบบก้อนแพ็คขายด้วยนะครับ เห็นบอกว่าสำหรับคนที่เป็นคอกาแฟแบบฮาร์ดคอร์ สนนราคา 5,000 บาท ภายในน่าจะมีบรรจุอยู่สัก 4-5 ก้อนนะครับ
ที่เมืองชุมพรนี้ เป็นแหล่งผลิตกาแฟสำเร็จรูปหลายๆยี่ห้อ อย่างกาแฟเขาทะลุ ที่ก็มีจำหน่ายในกรุงเทพ และรสชาติสำหรับผมนั้นถือว่าเข้มข้นเลยครับ
ชิมกาแฟขี้ชะมดตามความตั้งใจ ก็ตรงไปเที่ยวพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ-วัดทางสาย (อันนี้ก็นอกแผนการครับ แต่เห็นในเว็ปบอกว่าเป็น 1 ใน 10 มหัศจรรย์ของจังหวัดประจวบฯ) ภาพมุมสูงที่โปรโมทในเว็บไซต์นั้นสวยงามมาก แต่คงจะต้องใช้โดรนถ่ายแน่นอนครับ เส้นทางขึ้นไปยังวัดค่อนข้างชันเป็นบางช่วง และด้านบนมีพื้นที่จอดรถที่จำกัด
บริเวณทางขึ้นพระเจดีย์ฯ เป็นที่ตั้งของ พระพุทธกิติสิริชัย หรือ ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิแบบคันธาระ ศิลปะอินเดีย หันพระพักตร์ออกทะเล สร้างขึ้นโดยชาวบางสะพาน เพื่อ น้อมเกล้าฯถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ
จากนั้นเดินขึ้นไปยัง พระเจดีย์ฯ
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสร้างขึ้นมาจากแรงศรัทธาของประชาชนต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 50ปี
สามารถเข้าไปชมภายในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ และสามารถชมวิวมุมสูงได้จากบนนี้ครับ
นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้ทั้งมากราบไหว้ขอพรและชมทัศนียภาพอันสวยงาม ถ้ามี Drone คงได้เก็บภาพอย่างในรูปครับ (ภาพจาก http://www.ktc.co.th)
จากวัดทางสาย ก็มุ่งตรงไปจุดหมายปลายทางของวันนี้ที่หัวหิน ถนนหนทางเริ่มเต็มไปด้วยรถ โดยเฉพาะจุดท่องเที่ยวใหม่อย่างอุทยานราชภักดิ์ เพราะ Google map แสดงผลว่าถ้าขับผ่านทางนั้น จะติดประมาณ 1 ชั่วโมง ผมเลยเลือกทางอื่นที่อาจจะอ้อมหน่อย แต่ถึงหัวหินเร็วกว่าโดยผ่านทางตลาด Cicada ก็เลยแวะเดินช็อปปิ้ง ทานอาหารเย็น ฟังเพลงบรรยากาศสบายๆก่อนเข้า check in ที่โรงแรม Restro
บรรยากาศโรงแรมดีมากครับ ผมขอรีวิวรวมวันพรุ่งนี้แทน เพราะวันนี้เหนื่อยกับการขับเป็นระยะทางเกือบ 500 กิโลเมตร และแวะเที่ยวอยู่หลายที่พอสมควร หนทางเริ่มใกล้กรุงเทพฯเข้าทุกขณะ แต่สถานที่ท่องเที่ยงยังมีให้เที่ยวชมได้ตลอดเส้นทางที่ขับล่องใต้ครับ