Arambros ทริปขับรถล่องภาคใต้ 3,000 กม. (วันที่4)
เช้าวันที่4 ออกมาเดินชิวๆเก็บบรรยากาศสบายๆยามเช้าของเกาะมุก ก่อนที่จะออกเดินทางกลับเข้าฝั่งเพื่อไปชิมหมูย่างเมืองตรังที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความอร่อย จากนั้นจะต่อด้วยการไปชมทุ่งดอกบัวที่ทะเลน้อยพัทลุง และไปจบการเดินทางที่หาดใหญ่จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวัน รวมสี่วันนี้ขับรถมาเป็นระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร (อันนี้รวมแวะระหว่างทางแบบวนไปมา หรือขับผิดทางเพราะค้นชื่อไม่ชัดเจนในอากู๋)ตื่นเช้ามาสูดอากาศสดชื่นๆที่หาไม่ได้ในเมืองหลวง และรอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาดหน้าห้องพัก
จากนั้นก็ไปทานอาหารเช้าของทางโรงแรม กินไปชมบรรยากาศหาดทราย สายลม แสงแดด
อิ่มท้องก็ออกมาเดินเล่นริมหาด
หาดของเกาะมุกนั้นถือว่าอุดมสมบูรณ์มากนะครับ โดยเฉพาะช่วงเช้าที่น้ำลดอยู่นั้น สามารถเห็นทั้งปลาดาวทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก ปลิงทะเล ปูลมตัวใหญ่ๆ และสาหร่าย
เดินไปเรื่อยจนถึงสะพานเทียบเรือสำหรับไปเที่ยวถ้ำมรกต แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ไปเพราะเขาบอกว่าเป็นตรงนั้นจุดที่กระแสน้ำแรง คนที่ไปควรว่ายน้ำได้ระดับหนึ่ง ทริปนี้พาเด็กๆมาด้วยก็เลยตัดสินใจไม่ไปก่อนครับ ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้
ช่วงเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ที่เดินไปและเดินกลับมาที่จุดเดิม ปรากฏว่าน้ำขึ้นมาแล้ว ปลาดาวเอย ปลิงทะเลยเอยที่ติดบนหาดเพราะน้ำลด ก็คงแวกว่ายกลับสู่ท้องทะเลเป็นที่เรียบร้อย
จากนั้นก็เตรียมตัวเก็บสัมภาระ เพื่อขึ้นเรือออกจากเกาะมุก กลับไปขึ้นท่าเรือ ควน ตุง กู้ (ลุ้นอยู่ว่ารถที่จอดไว้จะยังอยู่ไหม) บ๊ายบาย เกาะมุก มีโอกาสจะแวะมาเยี่ยมใหม่
ขึ้นจากท่าเรือมาก็ประมาณ 10:30 ขับเจ้าไปเมืองตรังเพื่อทานหมูย่างก็คงเที่ยงพอดี
ร้านหมูย่างที่ผมเลือกวันนี้ชื่อร้านตรังหมูย่าง
ร้านตรังหมูย่าง นอกจากเมนูหมูย่างแล้วยังมีติ๋มซำที่จะยกมาให้เป็นชุดใหญ่ให้เราเลือกกัน
ที่เลือกกินร้านนี้ เพราะใกล้ๆกันจะมีร้านขนมเปี๊ยะซอย9 ที่ขึ้นชื่อของเมืองตรัง
ขนมเปี๊ยะซอย9 นั้นมีสองไส้ คือ เผือกไข่แดง กับถั่วแดง ผมซื้อแค่ไส้เผือกไข่แดงมาลองชิม
ขนมเปี๊ยะซอย9 อร่อยจริงๆครับ เปลือกแป้งนุ่มๆ ไส้เต็มๆ ไม่หวานเกินไป กินกับกาแฟดำร้อนๆ กำลังดีเลยครับ
อิ่มหนำเรียบร้อยก็เดินทางต่อแบบขับย้อนกลับขึ้นมาเพื่อไปทะเลน้อยพัทลุงด้วยความหวังว่าจะเห็นดอกบัวมากมายตามรูป ว่าจะเทียบกับทะเลบัวแดงที่อุดรได้ไหม
มาถึงทะเลน้อย บรรยากาศดูเงียบเหงามาก เดินไปถามเจ้าหน้าที่เลยได้ข้อมูลว่าช่วงนี้ยังไม่มีดอกบัว ถ้าจะเหมาเรือออกไปนั้น คงจะได้ชมนกมากกว่าดอกบัว ก็เลยขอแค่ถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆไปก่อน ไว้มีโอกาสจะมาดูดอกบัวอีกครั้ง เห็นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องมาช่วงมีนาคม
Google Map แนะนำให้ใช้เส้นทางเลียบฝั่งอ่าวไทย ผ่านเส้นทางถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550(หรือที่ชาวบ้านเรียกสะพานเอกชัย)เป็นเส้นทางหนึ่งที่สวยงามโดยจะวิ่งข้ามทะเลน้อย ก่อนจะเลียบอ่าวไทยไปยังสงขลาและหาดใหญ่จุดหมายในวันนี้(สภาพถนนมีบางช่วงกำลังก่อสร้างขยายทาง วิ่งสวนเลนกันยาวพอสมควร)
เส้นเลียบทะเลฝั่งอ่าวไทย นั้นดูในแผนที่แล้วผมจินตนาการว่าจะเหมือนกับเส้นทาง Gold Coast ของออสเตรเลีย แต่ปรากฏว่าไม่เห็นหาดเลยสักนิด ขับไปเรื่อยๆก็ขึ้นสะพานป๋าเปรม หรือชื่อจริงคือสะพานติณสูลานนท์
แวะถ่ายรูปที่จุดชมวิวดูบรรยากาศเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย คงเนื่องจากไม่ค่อยมีอะไรให้ชมมาก และส่วนใหญ่ก็จะมีร้านอาหารที่เห็นจุดชมวิวได้ดีกว่า นั่งสบายกว่ารองรับอยู่บริเวณใกล้ๆ
ก่อนเข้าหาดใหญ่ก็แวะหาดสมิหลาเพื่อตามหานางเงือกในความทรงจำวัยเด็ก
หาดสมิหลาช่วงนี้ จะมีคลื่นลมแรง
มาถึงรูปปั้นนางเงือกอันขึ้นชื่อของหาดสมิหลาที่ใครไปใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปคู่ด้วย กว่าจะถ่ายรูปแบบไม่มีคนได้ต้องใช้เวลารอนานเลยหล่ะครับ เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มน้อยใหญ่ต่างรุมกันถ่ายรูปคู่มีทั้งเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบกับแซงคิวถ่ายมั่วซั่วตามจิตสำนึกของแต่ละคนครับ
จบจากหาดสมิหลาก็มุ่งตรงไปที่พักโรงแรม Crystal เป็นโรงแรมใหม่ ดูสะอาดมาก แถมอยู่ตรงข้ามห้าง Central Festival หาดใหญ่
มื้อเย็นเลยขอกินและเดินช็อปช่วยชาติ(ลดหย่อนภาษี) ในห้าง Central เลยละกัน เพราะอยู่ใกล้ๆโรงแรม พรุ่งนี้แผนการเดินทางค่อนข้างจะขับรถนาน เพราะผมจะแวะเข้ายะลาก่อนขับวนกลับไปพักที่นครศรีธรรมราช อย่าลืมติดตามอ่านกันให้ครบระยะทาง 3,000 กิโลเมตรนะครับ