Arambros พาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โซล Part I

สวัสดีครับห่างหายไปจากหน้าบล็อกมานาน อันเนื่องมาจากภารกิจทั้งราษและหลวงทั้งหลายที่ประดังประเดเข้ามา จนทำให้ไม่มีเวลาเข้ามาอัพเดทเรื่องราวบนหน้าบล็อกตัวเอง วันนี้ได้โอกาสอันดีจะมาพาเพื่อนๆไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีกันที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่ผมเพิ่งจะได้เดินทางไปมาเมื่อ 23-26 ตุลาคมที่ผ่านมาครับ

หากจะพูดถึงเกาหลีใต้ คงไม่มีใครในที่นี้ที่ไม่รู้จัก ทั้งกระแสซีรี่ย์เกาหลี นักร้องเคป็อบ หรือว่าจะเป็นการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ที่เพิ่งจะจบไปไม่นาน ส่วนตัวผมการเดินทางมาเกาหลีใต้ครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง ซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาที่เรียกว่าห่างกันมากกับครั้งแรก (ผมไปครั้งแรกก็ตั้งแต่กระแสซี่รี่ย์ ยังไม่เกิดในเมืองไทยเลยครับ นับๆแล้วก็รู้สึกว่ามันนานมากกกกก) แพลนในการเดินทางไปครั้งนี้ ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็ตามล่าหาใบไม้เปลี่ยนสี ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังต่างๆ (ที่ผมมีความหลังเมื่อครั้งไปเกาหลีครั้งแรกซึ่งเป็นการไปกับทัวร์ แล้วเจอทัวร์ตัดโปรแกรมเที่ยวชมพระราชวังเคียงบกกุงออก เนื่องจากเวลาพาช็อปไม่เพียงพอ ครานี้เลยไปมัน 3 พระราชวังเลยครับ 🙂 รวมไปถึงไปเกาะนามิ และ โซลทาวเวอร์ อารัมภบทมาก็เนิ่นนาน เริ่มออกเที่ยวกันเลยดีกว่าครับ การเดินทางครั้งนี้ผมก็ใช้บริการของ เวียดนามแอร์ไลน์ โดยที่ต้องแวะฮานอยก่อนทั้งไปและกลับ ส่วนที่พักของผมก็ Chocolate Tree Hostel ที่น่าจะไม่ใช่ที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยซักเท่าไหร่ ที่ตั้งก็อยู่ใกล้กับ Sinchon Station ผมเลือกพักที่นี้เนื่องจากเช็คข้อมูลใน Tripadvisor เห็นคะแนนดีและได้รางวัล Travelers’s Choice 2014 Winner ก็เลยจองมาครับ โดยรวมก็ไม่ผิดหวัง แต่ถ้าสำหรับนักช็อปแล้ว อาจจะเป็นทำเลที่ไม่โดนเท่าไหร่ครับ

ภาพด้านหน้า โรงแรมที่พักครับ

สนามบิน อินชอน ตอนเช้า

ผมเดินทางมาถึงสนามบิน Incheon ตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและออกมาด้านนอกประตู B5 เพื่อขึ้น Airport Bus สาย 6002 ไปลงยัง  Sinchon Station มาถึงที่พักก็ 8.15 ก็ต้องนั่งรอเจ้าของมาทำการเช็คอินตอน 9 โมง โชคดีที่ห้องผมจองไว้ว่างพอดี ก็เลยได้เข้าห้องพักอาบน้ำแต่งตัว แอบคิดจะงีบซักพัก แต่ก็เสียดายเวลาเดินเที่ยวก็เลยออกตะลุยเมืองโซลกันเลย แต่ก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อ T-Money Card หรือบัตรเงินสด ราคาบัตร 2500 วอน และเราก็เติมเงินเข้าไปในบัตรตามจำนวนที่เราต้องการ ผมเติมไป 20000 วอน เราสามารถนำบัตรนี้ไปขึ้นลง รถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือ ซื้อของได้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ จุดหมายแรกของผม แน่นอนก็คือ พระราชวังเคียงบกกุง ที่ผมมีความหลังครั้งก่อน ผมนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่ สถานี Gyeongbokgung และเดินไปยังทางออกที่ 5 เพื่อไปยังพระราชวัง เมื่อไปถึงสักพักตรงบริเวณหน้าประตู Gwanghwamun ก็มีพิธีการณ์เปลี่ยนเวรยามรักษาการณ์หน้าประตู ซึ่งจะมีตลอดทุกชั่วโมงระหว่าง 10.00 – 15.00 ครับ

พิธีเปลี่ยนเวรยามรักษาการณ์

พระราชวังเคียงบกกุง สร้างขึ้นในปี 1394 ในสมัยของพระเจ้าแทโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน ถือได้ว่าเป็นพระราชวังที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลี เปรียบไปก็เหมือนพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่งครับ ในอดีตนั้นภายในมีตำหนักกว่า 200 ตำหนัก แต่ภายหลังได้ถูกญี่ปุ่นรุกรานในปี 1592-1598 และได้เผาตำหนักต่างๆ จนเหลือเพียง 10 ตำหนักในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าผมศึกษาเกี่ยวกับพระราชวังแห่งนี้มาน้อย จึงทำให้ผมเดินชมได้ไม่ทั่วถึง และมีในหลายโซนที่ผมไม่ได้ไปเยี่ยมชมในวันนี้ คราวหน้าคงต้องกลับมาแก้มือใหม่อีกรอบหล่ะครับ

ประตูฮึงยเน

ใบไม้เปลี่ยนสีที่พระราชวังเคียงบกกุง

จากพระราชวังเคียงบกกุง ผมเดินมุ่งหน้ามาทางพระราชวังชางด็อกกุงเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกหิว และท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ จึงต้องหยุดแวะระหว่างทางที่ย่านอินซาดง ที่ดูจะคึกคักและเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและของพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชุดฮันบก ตะเกียบแบบเกาหลี โปสการ์ด แม็กเน็ต และอีกสารพัดอย่าง

ย่านอินซาดง

จากพระราชวังที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด ผมก็มาที่พระราชวังชางด็อกกุง พระราชวังที่สวยงามที่สุดในเกาหลี และมีไฮไลท์ที่สำคัญคือสวนฮูวอน หรือ Secret Garden ที่มีความสวยงามและตรงตามเป้าหมายการมาตามล่าใบไม้เปลี่ยนสีของผมในทริปนี้ การเข้าชมสวนฮูวอนต้องเสียค่าเข้าเพิ่มอีก 5000 วอน และต้องเข้าชมพร้อมไกด์ที่ทางพระราชวังจะมีการจัดให้เป็นรอบ รอบที่ผมเข้าชมเป็นภาษาอังกฤษเวลา 15.30 โดยเราจะใช้เวลาชมภายในสวน 1.30 ชั่วโมง

Donhwamun ประตูหลักของพระราชวังชางด็อกกุง

Nakseonjae อดีตที่อยู่ของเหล่านางสนมภายในพระราชวังชางด็อกกุง

สวนฮูวอน หรือ Secret Garden สร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าแทจง เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของสมาชิกในราชวงศ์ ภายในสวนนั้นกว้างขวางและไกด์ของพระราชวังจะนำเราไปยังจุดต่างๆทั้งหมด  5 จุด โดยจะต้องมีการเดินขึ้นเนิน ลงเนินให้เหนื่อยบ้างในช่วงท้าย แต่ทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่มีให้เราชมไปตลอดทางที่เดินชมสวนก็ทำให้เราลืมความเหนื่อยไปได้ครับ นี่ถ้าได้สาวใส่ชุดฮันบกเดินชมสวนมาให้ถ่ายภาพก็คงจะดูดีไม่น้อยเลยครับ

ใบไม้เปลี่ยนสีในสวนฮูวอน

ใบไม้เปลี่ยนสีในสวนฮูวอน

ผมปิดท้ายทริปวันนี้ด้วยการกัดฟันเดินขึ้นไปชมหมู่บ้านโบราณบุกชน ฮันอก ต้องยอมรับว่าปวดขามาก แถมด้วยอาการเพลียเนื่องด้วยผมได้งีบบนเครื่องบินแค่ 2 ชั่วโมงเองครับ บ้านฮันอกเป็นบ้านโบราณที่ในอดีตเป็นเขตที่อยู่อาศัยของขุนนางหรือเสนาบดีระดับสูงในสมัยราชวงศ์โจซอน แต่ในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์และบางบ้านได้เปิดเป็น เกสต์เฮ้าส์ อาร์ตแกลลอรี่ หรือ จุดชมวิวสำหรับผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณแห่งนี้นอกจากนั้นโดยรอบหมู่บ้านมีร้านคาเฟ่ หรือ ร้านค้าต่างๆที่มีการตกแต่งอย่างน่ารักให้เราได้เดินชมไปเพลินๆด้วยครับ

หมู่บ้านโบราณบุกชน ฮันอก

แสงเย็นจากหมู่บ้านโบราณ

** ข้อมูลเพิ่มเติม

http://www.royalpalace.go.kr/html/eng/main/main.jsp (พระราชวังเคียงบกกุง)

http://eng.cdg.go.kr/main/main.htm (พระราชวังชางด็อกกุง)