พม่าน่าเที่ยว ศรัทธาแห่งพระธาตุอินทร์แขวน
1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่สำคัญอีกแห่งในพม่าที่เราจะเห็นได้ถึงแรงศรัทธาของชาวพม่าได้กันตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่คิมปูนแค้มป์ ผู้คนชาวพม่ารวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างมารวมกันเพื่อที่จะขึ้นรถบรรทุกหกล้อที่ดัดแปลงโดยการนำไม้กระดานมาวางพาดตรงกะบะท้ายรถและนั่งเบียดเสียดกันบนรถจนแน่นถึงจะสามารถออกรถเพื่อไปยังพระธาตุอินทร์แขวนจนหลายคนเรียกขานกันว่ารถขนหมู ขอแนะนำว่าหลีกเลี่ยงการนั่งหลังสุดเพราะคุณอาจจะนั่งจนเกร็ง แต่ถ้าชอบความเสียวก็อาจจะโดนใจกันน่ะครับ
หลังจากนั่งโรลเลอร์โคสเตอร์แบบหกล้อขึ้นมาประมาณ 30-40 นาทีก็จะมาถึงจุดที่จะต้องลงรถเพื่อเดินขึ้นหรือนั่งเสลี่ยงขึ้นไปยังพระธาตุอินทร์แขวน ค่าบริการสำหรับการนั่งเสลี่ยงก็ตกคนละ 700-800 บาทแต่ถ้าเป็นคนสมบูรณ์หน่อยราคาอาจจะแพงขึ้นมาสักหน่อยอันนี้ต้องทำใจ อิอิ คนที่นั่งเสลี่ยงอาจจะเจอทริกของคนแบกที่จะหยุดพักเพื่อบริเวณร้านขายน้ำและให้เราเลี้ยงน้ำอัดลมซึ่งราคาจะแพงเป็นพิเศษ และเมื่อไปถึงจุดหมายก็จะเรียกร้องทิปโดยพยายามกดดันต่อรอง ขอแนะนำให้ใจแข็งเข้าไว้น่ะครับ หรือถ้าดีที่สุดมีแรงพอก็เดินชมวิวขึ้นไปเรื่อยๆถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยครับ อิอิ
ขึ้นมาถึงแล้วต้องไปที่สำนักงานเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าพระธาตุอินทร์แขวนคนละ 6 ยูเอสดอลล่าห์ พร้อมกับจะได้รับบัตรมาเพื่อห้อยคอแสดงตนเวลาจะเดินเข้าไปบริเวณพระธาตุ ส่วนโรงแรมที่พักก็มี 2 ที่ Moutain Top Hotel กับ Kyaikhto Hotel ผมว่าที่ Kyaikhto จะเดินไปพระธาตุได้สะดวกกว่าครับ
ตามตำนานเล่าขานกันในสมัยพุทธกาลกล่าวกันว่า ฤาษีติสสะผู้หนึ่งได้รับพระเกศาจากพระพุทธเจ้าที่ได้มอบให้ไว้เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้นได้มาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์ แต่ว่าฤๅษีติสสะกลับนำไปซ่อนไว้ในมวยผม พอเวลาล่วงเลยถึงคราวที่ฤๅษีติสสะจะต้องละสังขาร โดยมีความตั้งใจจะนำพระเกศาไปบรรจุไว้ในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศีรษะของตน จึงให้พระอินทร์ช่วยหาก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนกับศีรษะ ซึ่งได้มาจากใต้ท้องมหาสมุทร และก็ให้พระอินทร์นำมาวางหรือแขวนไว้บนภูเขาหิน จึงเป็นที่มาของชื่อ “พระธาตุอินทร์แขวน” แต่ชาวพม่าและชาวมอญจะเรียกพระธาตุอินทร์แขวนว่า “ไจก์ทิโย” ซึ่งเป็นภาษามอญ หมายถึง เจดีย์บนหินที่มีรูปร่างคล้ายศีรษะฤๅษี
และยังมีอีกหนึ่งตำนานก็กล่าวกันว่า มีฤๅษีองค์หนึ่งซ่อนพระเกศาที่ได้รับมาจากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้นมาโปรดสัตว์ในถ้ำไว้ในมวยผมมาเป็นเวลานาน เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะต้องละสังขารจึงตัดสินใจมอบพระเกศาให้กับพระเจ้าติสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรของลูกศิษย์ที่นำมาฝากให้ฤๅษีช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก แต่ก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหาก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายศีรษะของฤๅษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหาจากใต้สมุทรนำมาวางไว้ที่หน้าผา
ชาวพม่าเชื่อกันว่าในชีวิตหนึ่งจะต้องมากราบไหว้พระธาตุอินทร์แขวน 3 ครั้ง ด้วยที่คนไทยเราอาจจะติดในเรื่องการเดินทางมาไหว้พระธาตุอินทร์แขวนก็เลยใช้วิธีลักไก่เอา โดยเมื่อขึ้นมาถึงก็ไปไหว้ครั้งที่ 1 แล้วช่วงค่ำก็กลับไปไหว้เป็นครั้งที่ 2 และเช้าก่อนเดินทางกลับก็ไปไหว้เป็นครั้งที่ 3 ครับ
ผมเดินทางกลับในช่วงเช้า และเกิดเหตุการณ์ที่วุ่นวายเมื่อกระเป๋าของเพื่อนผมเกิดหายไปซึ่งภายในมีพาสพอร์ตของเพื่อนผมอยู่ข้างใน ทำเอาโปรแกรมที่เราวางแผนจะไปเที่ยวหงสาวดีจำเป็นต้องยกเลิก เพื่อที่จะบึ่งรถกลับไปย่างกุ้งเพื่อติดต่อสถานฑูตไทย แต่ด้วยความที่เป็นวันหยุดราชการสถานฑูตจึงไม่เปิดทำการ ทำให้ดูวี่แววแล้วเพื่อนผมคงต้องอยู่ย่างกุ้งต่ออีกหนึ่งคืน แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนผมได้กระเป๋าคืนในเวลาอันฉิวเฉียดและต้องวิ่งมาขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเพื่อนผมบอกว่ามีคนรออำนวยความสะดวกในการมาขึ้นเครื่องประจำแต่ละจุดไม่ว่าจะเป็นเคาท์เตอร์เช็คอิน ตม ก่อนที่สนามบินจะปิดทำการ ซึ่งท้ายสุดแล้วผมคงต้องขอบคุณคนขับรถเช่าในพม่า Mr.Ang ที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ และเป็นความรู้สึกประทับใจมากในการมาเที่ยวพม่าในครั้งนี้ อย่างไรเพื่อนๆมาเที่ยวพระธาตุอินทร์แขวนก็ดูแลกระเป๋ากันดีๆน่ะครับ โดยเฉพาะเวลานำกระเป๋าขึ้นบนรถหกล้อ ควรแยกของมีค่าและพาสพอร์ตเก็บไว้ติดตัวจะดีกว่า เดี๋ยวจะเกิดเหตุการณ์อย่างพวกผมทำเอาการมาเที่ยวจะเป็นเรื่องเครียดไปครับ