พม่าน่าเที่ยว ตอนที่ 1

ปัจจุบันไม่ว่าจะในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ ภาพข่าวจากโทรทัศน์ หรือกระแสการพูดคุยต่างๆของผู้คน คงจะหนีไม่พ้นที่จะมีเรื่องของประเทศพม่าเป็นหัวข้อ เนื่องจากกระแสการเปิดประเทศต้อนรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก บล็อก Arambros ก็ถือโอกาสนี้เกาะกระแสพาเที่ยวพม่า โดยเริ่มต้นกันที่ ย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงของพม่า ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายไปที่ เนปิดอว์ ห่างไปทางเหนือย่างกุ้ง360 กิโลเมตร ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเมืองหลวงในปัจจุบัน แต่ย่างกุ้งยังคงความสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจ และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นประตูเดินทางท่องเที่ยวในพม่า

การเดินทางเที่ยวในเมืองย่างกุ้ง ถ้าไม่ได้มากับบริษัททัวร์ ก็ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถตู้เช่าเหมาพาเที่ยวรายวัน สนนราคาผมว่าน่าจะประมาณ 50-100 เหรียญขึ้นอยู่กับขนาดรถ (เนื่องด้วยผมเหมาพาเที่ยวย่างกุ้ง + พระธาตุอินแขวน + หงสาวดี 3 วัน 2 คืน ในราคา 350เหรียญเป็นรถตู้ครับ) รถในพม่านั้นจะไม่มีรถใหม่ ทุกคันจะต้องเป็นรถมือสอง และบางคันอาจจะไม่มีแอร์คอนดิชั่น เพราะฉะนั้นก่อนเช่ารถก็เช็คสภาพกันให้ดีๆน่ะคร้าบ อีกเรื่องที่อยากจะฝากผู้ที่จะมาเที่ยวพม่า เงิน USD ที่เราแลกมาจากเมืองไทยเพื่อใช้ในพม่านั้นควรเป็นแบงค์ใหม่ ไม่มีรอยขีดเขียน รอยสแตมป์ หรือรอยพับแบงก์ตรงกลางครับ เพราะคุณอาจจะโดนปฎิเสธโดยไม่มีเหตุผลจาก ธนาคารหรือโรงแรมที่เราเข้าพัก (อาจจะนำความหงุดหงิดมาให้เราได้คร้าบ)

จบคำแนะนำเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการมาเที่ยวพม่าแล้ว เรามาเริ่มเที่ยวกรุงย่างกุ้งกันเลยดีกว่า แต่กว่าจะฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองที่พี่เต่าเรียกพี่ก็ทำเอาเวลาล่วงมาเกือบเที่ยง ท้องก็เริ่มร้อง ก็เลยต้องมุ่งหน้าไปร้านอาหารกันก่อน มื้อนี้เราก็ลิ้มลองอาหารพม่าในแบบก้ำกึ่งบุฟเฟ่ท์ โดยชี้สั่งที่เคาท์เตอร์ แล้วเค้าจะนำมาส่งให้ที่โต๊ะ บนโต๊ะก็จะมีเครื่องเคียงต่างๆ ประเภทน้ำพริก ผักดองต่างๆ รสชาติโดยรวมก็พอไปได้ครับ หลังจากนั้นคนขับก็แนะนำให้ไปหลบร้อนกันก่อนที่ตลาดสก็อต หรือ โบโจ๊ก อองซาน ตลาดที่ขายทุกอย่าง พูดไปก็เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าดีๆนี่เองครับ เดินชมของไป แวะนั่งดื่มชา กาแฟ ก็ได้เวลาออกชมตัวเมืองย่างกุ้งอย่างจิงจังกันซะที จุดหมายแรกที่เราจะไปกันก็คือเจดีย์สุเลพญา เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ซึ่งคาดว่าสร้างมาร่วม 2000 ปี โดยภายในจะบรรจุเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบยังมีตึกเก่าสมัยอาณานิคมที่สวยงามให้ชมและถ่ายภาพ จากเจดีย์สุเลพญาเรามุ่งหน้าไปเจดีย์โบตะตอง หรือ วัดเทพทันใจที่คนไทยเรานิยมมากราบไว้บูชา ด้วยเชื่อว่าอธิษฐานขอสิ่งใดก็จะได้สมปราถนาทันใจ

เยี่ยมชมเจดีย์มาสองที่คราวนี้เราไปชม พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยีหรือพระนอนตาหวาน พระนอนปางพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 70 เมตรจัดได้ว่าเป็นพระนอนที่ตาหวานที่สุดในพม่า แต่อาจจะไม่ใช่พระนอนที่ยาวที่สุดในพม่าน่ะครับ บริเวณปลายพระบาทมีภาพวาดที่ถือว่าเป็นภาพมิ่งมงคล โดยมีลายลักษณธรรมจักรในบริเวณฝ่าพระบาทล้อมด้วยรูปมงคล 108 ประการ

แล้วก็ได้เวลามาเที่ยวไฮไลท์ที่ย่างกุ้ง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดในพม่า ค่าเข้าชมคนละ 5 ดอลล่าร์ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาขึ้นทางด้านทิศใต้ พวกเราใช้บริการลิฟท์พาขึ้นสู่ลานกว้างรอบเจดีย์ชเวดากองแทนการเดินขึ้นบันได บนลานกว้างเต็มไปนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนที่มาสักการะด้วยความศรัทธา บริเวณทั้งสี่ทิศของลานกว้างจะมีวิหารโถงไม้หลังคาทรงปราสาท และภายในประดิษฐานพระประธานให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา

รอบเจดีย์มีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิสหรวม 8 องค์ ซึ่งใครเกิดวันไหนก็สามารถไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ครับ เวลายามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกสำหรับผมเป็นเวลาที่เหมาะสมในการมาเยี่ยมชมมหาเจดีย์ชเวดากอง เพราะด้วยอากาศที่ไม่ร้อนและบรรยากาศแสงที่เป็นใจในการถ่ายภาพ มีเวลาอย่าพลาดมาเยี่ยมชมเพื่อนบ้านเรากันครับ